BTS ชิดลม MRT รัชดา  โทร : 096-1875888 

      

ฝ้า VS กระ: เข้าใจความต่าง พร้อมแนวทางการรักษาที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงวัย 30-60 ปี

Share

สารบัญ

ฝ้า VS กระ: เข้าใจความต่าง พร้อมแนวทางการรักษาที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงวัย 30-60 ปี

 
  ปัญหาผิวพรรณอย่าง “ฝ้า” และ “กระ” ถือเป็นความกังวลอันดับต้น ๆ ของผู้หญิงวัย 30 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น รังสียูวีและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมีผลต่อสุขภาพผิวมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างฝ้าและกระ พร้อมแนวทาง รักษาอย่างปลอดภัย ที่เหมาะสมกับวัย เพื่อให้คุณสามารถดูแลผิวได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

ฝ้าคืออะไร?

 
  ฝ้า (Melasma) คือ ภาวะที่เซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดรอยสีเข้มหรือปื้นสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้มบนใบหน้า มักพบในบริเวณที่โดนแดดเป็นประจำ เช่น หน้าผาก โหนกแก้ม และเหนือริมฝีปาก

สาเหตุของฝ้า

- แสงแดด โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ขณะตั้งครรภ์ หรือใช้ยาคุมกำเนิด
- พันธุกรรม
- ความเครียดและมลภาวะ

ลักษณะเด่นของฝ้า :

- มักเกิดเป็น ปื้นกว้าง สีเข้ม
- ไม่มีขอบเขตชัดเจน 
- เกิดทั้งสองข้างของใบหน้าอย่างสมมาตร

กระคืออะไร?

กระ (Freckles / Lentigines) เป็นจุดสีน้ำตาลหรือสีเข้มขนาดเล็กที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินในผิวหนังชั้นบน มักปรากฏบนบริเวณที่ได้รับแสงแดดมาก เช่น แก้ม สันจมูก ไหล่ หรือหลังมือ


ประเภทของกระ :

- กระตื้น (Freckles) – จุดเล็ก สีอ่อน มักเห็นชัดหลังโดนแดด
- กระลึก (Lentigines) – จุดสีเข้มขึ้น ฝังลึกในผิวหนัง เกิดจากแสงแดดสะสมระยะยาว
- กระแดด (Solar lentigines) – พบมากในผู้มีอายุมาก มักเกิดถาวร


ลักษณะเด่นของกระ :

- จุดเล็ก ๆ กระจายตัว
- มีขอบเขตชัดเจน
- สีเข้มขึ้นเมื่อสัมผัสแดด

แนวทางการป้องกันการเกิดฝ้า

การป้องกันเป็นหัวใจหลักการหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แนะนำให้
- ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 50+ และ PA+++ ขึ้นไป
- ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง
- สวมหมวกปีกกว้าง หรือร่มกันแดดเมื่อต้องออกกลางแจ้ง

แนวทางการรักษา “ฝ้า” อย่างปลอดภัย

 การรักษาฝ้าให้ปลอดภัยและเห็นผล ต้องอิงตามระดับความลึกของฝ้าและสุขภาพผิวของแต่ละบุคคล

สิ่งสำคัญที่ควรหลีกเลี่ยง
 คือการใช้ครีมที่มีสารต้องห้าม เช่น ไฮโดรควิโนน หรือการลอกหน้าแรงๆ ที่อาจทำให้ผิวบางและฝ้าลุกลามมากขึ้น
หนึ่งในแนวทางที่ได้รับการยอมรับ คือการฟื้นฟูฝ้าในระดับเซลล์ เช่น โปรแกรม Program SMAPS

 การรักษาฝ้าด้วยเซลล์ ซึ่งเป็นการรักษาแบบไม่ใช้ความร้อน ไม่ลอกผิว และไม่ทำให้ผิวบางลงแต่จะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ควบคุมเม็ดสี และลดโอกาสที่ฝ้าจะกลับมาเข้มซ้ำในอนาคต การดูแลผิวควบคู่กับการใช้กันแดดเป็นประจำ และพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยเสริมให้ผลลัพธ์จากการรักษาฝ้า มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

แนวทางการรักษา “กระ” อย่างปลอดภัย

 การรักษากระอย่างปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงวิธีที่ใช้ความรุนแรงกับผิว เช่น การลอกหน้าแรงหรือเลเซอร์บางชนิดที่อาจทำให้ผิวไวต่อแสงและกระกลับมาเข้มกว่าเดิม

 แนวทางที่แนะนำในปัจจุบัน คือการฟื้นฟูผิวในระดับเซลล์ เช่น โปรแกรม SMAPS
ซึ่งเน้นสร้างผิวให้แข็งแรงจากภายใน ช่วยปรับสมดุลเม็ดสีโดยไม่ทำให้ผิวบางหรืออ่อนแอลงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ปลอดภัยและยั่งยืน อย่าลืมใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด เพื่อป้องกันไม่ให้กระเข้มขึ้นอีกในอนาคต

คำแนะนำสำหรับผู้หญิงวัย 30-60 ปี

 ผู้หญิงในช่วงอายุนี้มักประสบกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความเครียด และการสัมผัสแสงแดดสะสมจากวัยหนุ่มสาว ทำให้ทั้งฝ้าและกระเกิดขึ้นง่ายขึ้น 


สรุป : ฝ้าและกระ รักษาได้ หากเลือกวิธีที่ปลอดภัย

ไม่ว่าจะเป็น “ฝ้า” หรือ “กระ” ล้วนสามารถรักษาให้จางลงได้ หากรู้จักดูแลอย่างถูกวิธีและมีวินัยในการป้องกัน ปัจจุบันมีทางเลือกทั้งเวชสำอางและการแพทย์ที่หลากหลาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกวิธีที่ ปลอดภัย ได้ผล และเหมาะสมกับผิวของแต่ละคน โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
สนใจปรึกษาฟรี
model

รับคำปรึกษาและรับ

สิทธิพิเศษ

กรุณากรอกเบอร์โทรเฉพาะตัวเลข 10 หลักเท่านั้น
close