โทร: 096-187-5888เพื่อรับสิทธิ รักษาฝ้าฟรี 1 ครั้ง

“น้ำอัดลม” อุปสรรคของคน เริ่มลดความอ้วน

Share

สารบัญ

“น้ำอัดลม” อุปสรรคใหญ่ของคน เริ่มลดความอ้วน

การดื่มน้ำหวาน หรือน้ำอัดลม เพื่อดับกระหาย คลายร้อน เติมความสดชื่นให้ร่างกายหรือมื้ออาหาร หรือแม้กระทั่งช่วยคลายเครียด น่าจะเป็น 1 ในความชอบของใครหลาย ๆ คน และมีบางคนที่มีนิยมไม่ยอมรับประทานน้ำเปล่า เพราะความที่มันไม่มีรสชาติ ก็ยิ่งเลือกรับประทานน้ำอัดลมหวาน ๆ ในปริมาณที่มากขึ้นต่อวัน ดังนั้นพฤติกรรมการดื่มน้ำอัดลมมากจนเกินไป หรือติดนิสัยชอบน้ำอัดลมมากกว่าการดื่มน้ำเปล่า นับเป็น 1 ในสาเหตุหลัก ตัวการใหญ่ของการที่สาว ๆ หรือหลาย ๆ คนมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นจนเกินเกณฑ์มาตรฐานและกลายเป็นโรคอ้วน ทำให้ต้อง เริ่มลดความอ้วน เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา และนอกจากนี้การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปยังเพิ่มโอกาสในการนำพาหลากหลายโรคร้าย ที่อาจไม่ใช่แค่ทำให้รูปร่างเปลี่ยนไปแต่ยังทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้แม้จะยังอายุน้อย เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เป็นต้น และสำหรับใครที่กำลังจะ เริ่มลดความอ้วน แต่ยังมีพฤติกรรมติดน้ำอัดลม ติดน้ำหวานอยู่ก็แม้จะเป็นเรื่องยากสักหน่อยที่จะประสบผลสำเร็จแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีแนวทาง แล้วจะต้องทำอย่างไรบ้างให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ ไปดูกัน

ทำไม “น้ำอัดลม” ถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องให้ความใส่ใจหากอยาก เริ่มลดความอ้วน

ทำไม “น้ำอัดลม” ถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องให้ความใส่ใจหากอยาก เริ่มลดความอ้วน

เนื่องจาก “น้ำอัดลม” คือ 1 ในเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงมาก ยกตัวอย่างเช่น น้ำอัดลมชนิดน้ำดำกระป๋องปริมาณ 345 มิลลิลิตร อาจมีน้ำตาลราว 35 กรัม หรือเกือบ 9 ช้อนชา เลยทีเดียว ซึ่งองค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ปริมาณน้ำตาลที่เติมในอาหารในแต่ละวันไม่ควรเกิน 4 ช้อนชา หรือ 16 กรัม การดื่มน้ำอัดลมจึงทำให้มีปริมาณสารอาหารที่ให้พลังงานเป็นจำนวนมาก หรือที่เรียกว่า มีแคลอรีสูง (calories) และเมื่อถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แล้วไม่ถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน ก็จะถูกนำไปสะสมเป็นไขมัน ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและอ้วนขึ้นในที่สุด

นอกจากนี้งานวิจัยหลายชิ้นสรุปมาตรงกันว่า คนที่ดื่มน้ำอัดลมส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยรู้ตัวว่าดื่มเยอะเกินไป จนทำให้บางครั้งแคลอรี่โดยรวมในละวันมากเกิน ประกอบกับไม่ออกกำลังกายให้สมดุลกัน จนทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัวนั่นเอง ดังนั้นหากคุณอยากจะ เริ่มลดความอ้วน ก็อาจจะต้องหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องของเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยน้ำตาลปริมาณสูงอย่างน้ำอัดลมเสียก่อน เพื่อจะได้ไม่เป็นอุปสรรคในการควบคุมน้ำหนักหรือลดน้ำหนักนั่นเอง

เทคนิคลดความอ้วน ด้วยการเพิ่มข้อจำกัดในกับการดื่มน้ำอัดลม

เทคนิคลดความอ้วน ด้วยการเพิ่มข้อจำกัดในกับการดื่มน้ำอัดลม

แม้ว่าการหยุดดื่มน้ำอัดลมสำหรับคนที่คุ้นชินหรือเคยชินไปแล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งติดการดื่มน้ำหวานมานานมาก ๆ จะให้หยุดภายในข้ามคืนคงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังต้องการลดการดื่มน้ำอัดลม เพราะอยากจะ เริ่มลดความอ้วน คุมน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่ม หรือต้องการดูแลสุขภาพ ก็ลองใช้วิธีที่จะช่วยให้คุณค่อย ๆ ลดการดื่มไปจนถึงหยุดดื่มน้ำอัดลมได้ง่ายขึ้น เป็นเทคนิคที่น่าจะดีกว่าการงดไปเลยแบบหักดิบซึ่งอาจเสี่ยงต่อการกลับมาติดน้ำอัดลมอีกครั้ง

เทคนิคที่ 1. คุมหรือจำกัดปริมาณอาหารที่ได้รับในแต่ละวันให้ดีพอ

หากเราตั้งใจจะ เริ่มลดความอ้วน ก็ต้องควบคุมปริมาณอาหาร เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายอย่างจริงจังและเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มโปรตีน กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน กินผักเพิ่มใยอาหาร และลดการกินขนมขบเคี้ยว ถ้าใน 1 อาทิตย์สามารถคุมอาหารได้ตามแพลนที่วางไว้ พอจบสัปดาห์ก็สามารถให้รางวัลตัวเองได้ด้วยการดื่มน้ำอัดลม 1 กระป๋อง

เทคนิคที่ 2. เปลี่ยนจากดื่มเรื่อย ๆ มาเป็นดื่มเฉพาะช่วงมื้ออาหาร

การดื่มเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวันแบบไม่รู้ตัวก็เหมือนกับการที่เราเติมน้ำตาลเข้าในร่างกายตลอดทั้งวัน และแน่นอนว่าร่างกายก็จะได้พลังงานจากน้ำตาลที่บริโภคเข้าไป และหากเผาผลาญไม่หมดก็จะแปรเปลี่ยนเป็นไขมันเก็บสะสมไว้ในร่างกาย ดังนั้นหากใครที่เคยมีนิสัยดื่มน้ำอัดลมแบบจิบไปเรื่อย ๆ แนะนำให้เปลี่ยนมาดื่มหลังอาหารให้จบในครั้งเดียว ก็จะช่วยให้ร่างกายมีช่วงระยะเวลาในการห่างจากน้ำอัดลม

เทคนิคที่ 3. ค่อย ๆ ลดปริมาณของน้ำอัดลมลงจนสามารถเลิกดื่มได้

สำหรับคนที่กำลัง เริ่มลดความอ้วน แต่ยังติดน้ำอัดลมอยู่ แนะนำให้เริ่มจากลองลดปริมาณในการดื่มลงมา เช่น ปกติเคยสั่งน้ำอัดลมแก้วใหญ่ ก็ลองค่อย ๆ ลดลงมาเหลือแก้วกลาง ไปจนถึงแก้วเล็ก หรือถ้าใครดื่มน้ำอัดลมวันละ 2 – 3 กระป๋อง ก็ลองลดลงมาให้เหลือวันละ 1 กระป๋อง จากที่เคยดื่มทุกวัน ก็ลดจำนวนวันลงเรื่อย ๆ ไปจนสามารถงดดื่มเป็นเวลานาน ๆ ได้ในที่สุด

เทคนิคที่ 4. ผสมโซดาลงไปใน น้ำที่กินแล้วไม่อ้วน

หลายคนที่ติดน้ำอัดลมก็เพราะชอบความซ่า เพราะดื่มแล้วทำให้เราสดชื่น รู้สึกชื่นใจและกระปรี้กระเปร่า ซึ่งถ้าหากใครที่ชื่นชอบและติดความซ่าในน้ำอัดลม แนะนำให้ลองเติมโซดาเพิ่มไปใน น้ำที่กินแล้วไม่อ้วน โดยอาจเริ่มจากการเทน้ำอัดลมแค่ครึ่งแก้วผสมโซดาอีกครึ่งแก้ว แน่นอนว่าหากทำแบบนี้ความหวานจากน้ำอัดลมจะลดลง แต่ข้อดีคือเราก็จะได้รับน้ำตาลน้อยกว่า และยังคงได้รสสัมผัสความซ่าของน้ำอัดลมอยู่

แล้วถ้าอยาก เริ่มลดความอ้วน ควรจะเลือกเครื่องดื่มแบบไหนที่ไม่ทำให้อ้วน?

ถ้าอยาก เริ่มลดความอ้วน ควรจะเลือกเครื่องดื่มแบบไหนที่ไม่ทำให้อ้วน

มาถึงอีกหนึ่ง เทคนิคลดความอ้วน สำหรับคนที่ เริ่มลดความอ้วน และสามารถลดปริมาณการดื่มน้ำอัดลมลงได้แล้ว และอยากจะลองเลือกดื่ม น้ำที่กินแล้วไม่อ้วน แทนเพื่อสุขภาพทีดีและยังช่วยให้คุมน้ำหนักได้ดีขึ้น แล้วจะมีเครื่องดื่มอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกัน

  • น้ำอัดลมที่ไม่มีน้ำตาลและโซเดียมต่ำ

    เลือกน้ำอัดลมสูตรน้ำตาล 0% ที่ไม่มีปริมาณน้ำตาลบรรจุอยู่ในน้ำอัดลม โดยดูได้จากฉลากข้างขวดทุก ๆ ขวด หรือข้างกระป๋องทุกกระป๋อง แต่ทั้งนี้การเลือกแบบ 0% ก็อาจจะไม่ได้ช่วยให้คุณเลิกติดน้ำอัดลม แต่ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีหากต้องการดื่ม น้ำที่กินแล้วไม่อ้วน แต่ยังคงความซ่าและมีรสชาติของน้ำอัดลมอยู่

  • เลือกเครื่องดื่มแคลอรีน้อย

    หากคุณสามารถเลิกดื่มน้ำอัดลมได้แล้ว และอยากลองหา น้ำที่กินแล้วไม่อ้วน ขอแนะนำเป็นให้หันมาดื่มเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำแทน ซึ่งมีให้เลือกมากมาย แม้ว่าจะไม่มีรสชาติที่อร่อยถูกปากถูกใจ แต่รับรองว่าดื่มแล้วไม่ทำให้น้ำหนักตัวของคุณเพิ่มขึ้น แถมยังดีต่อสุขภาพ บางเครื่องดื่มยังมีส่วนช่วยเพิ่มการเผาผลาญซึ่งดีต่อการ เริ่มลดความอ้วน อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น น้ำเปล่า, กาแฟดำ, ชาเขียวไม่ใส่น้ำตาล, น้ำผลไม้ชนิดน้ำตาลน้อย เช่น น้ำส้มคั้นสด น้ำฝรั่งคั้นสด, น้ำเต้าหู้, น้ำมะเขือเทศ, น้ำขิง, น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์, น้ำผึ้งมะนาว, นมจืดไร้ไขมัน เป็นต้น

สรุป

นี่คือเคล็ดลับและเทคนิคเล็ก ๆ น้อย สำหรับคนติดน้ำอัดลมและกำลังวางแผน เริ่มลดความอ้วน ให้สำเร็จ โดยสรุปแล้วแม้ว่าคุณอาจจะยังชื่นชอบและอยากดื่มน้ำอัดลมอยุ่ก็ยังเป็นสิ่งที่ทำได้ เพียงแต่ต้องจำกัดปริมาณและควบคุมปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ในแต่ละวันให้สมดุล เพิ่มการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกินออกให้หมด หรือถ้าหากคุณเป็นอีกคนที่กำลัง เริ่มลดความอ้วน แต่ไม่แน่ใจว่าจะต้องวางแผนอย่างไร ลดแบบไหนถึงจะเหมาะกับคุณ แนะนำว่าให้ลองปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการดูแลรูปร่าง เป็นทางเลือกที่ทำให้คุณลดน้ำหนักได้แบบถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันนี้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ คิดค้นมาเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและน่าพึงพอใจ มาพร้อมสุขภาพดีในระยะยาว อย่าง โปรแกรม Sliming Lisa นวัตกรรมใหม่ของการลดน้ำหนักที่ปรับสมดุลระบบเผาผลาญลึกถึงระดับเซลล์ ก็นับเป็นอีกทางเลือกของผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างอย่างเห็นผล และทำให้สุขภาพดีขึ้น ช่วยปรับสมดุลร่างกายจากภายใน ดูแลโยแพทย์เฉพาะทางผู้ชำนาญการจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยและช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้แบบยั่งยืน

บทความนี้เขียนโดย แพทย์หญิงธนิดา วรวิวัชร์ (หมอใบเฟิน) แพทย์ศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ก่อตั้ง Chuladoctor Clinic เแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย, การปรับรูปหน้าและเทคนิค SMAPS ขั้นสูง

สนใจปรึกษาฟรี
model

รับคำปรึกษาและรับ

สิทธิพิเศษ